ลพบุรี จัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2566 เพื่อ
รำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ “พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย”วันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. ที่สหกรณ์การเกษตรโคกสำโรง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรีนางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานวางพานพุ่มดอกไม้ สักการะ “พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย” พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พร้อมด้วยสหกรณ์ต่าง ๆ ภายในจังหวัดลพบุรี จำนวน 19 แห่ง และได้อ่านสารนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติโดยมีนางพรสวรรค์ เริงมิตร สหกรณ์จังหวัดลพบุรี นายสิทธา ภู่เอี่ยม นายอำเภอโคกสำโรง นายปรีชา กิจรัตนกาญจน์ สหกรณ์สวนป่าภาคเอกชนลพบุรีจำกัด
นายแพทย์ชาติชัย มหาเจริญสิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโคกสำโรง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสหกรณ์ คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์จากทุกอำเภอ จำนวน 150 คน เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ “พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย” เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2566 และเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานสหกรณ์สู่สาธารณชนในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานในพิธีได้มอบเงินอุดหนุนโครงการลดดอกเบี้ยงินกู้ให้สมาชิกสหกรณ์จำนวนเงิน 2,052,464.69 บาท และ มอบเงินบริจาค”สหกรณ์ร่วมใจ เพื่อสาธารณ ประโยชน์” ให้แก่ โรงพยาบาลโคกสำโรง , โรงเรียนโสตศึกษาปานเลิศ จังหวัดลพบุรี , กองทุนสังคะประชานุเคราะห์สงฆ์โคกสำโรง และ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 6 จังหวัดลพบุรี รวมเป็นจำนวนเงิน 72,000 บาท รวมถึงการจัดงานในวันนี้มีกิจกรรมต่าง ๆประกอบไปด้วย การทำบุญ/ใส่บาตรอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 29 รูป การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ึการออกบูธจำหน่ายสินค้าของสมาชิกสหกรณ์และภาคีเครือข่ายต่าง ๆ
ซึ่งนับตั้งแต่ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงส่งเสริมให้มีการทดลองจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นเป็นแห่งแรก คือ สหกรณ์วัดจันทร์ ไม่จำกัดสินใช้ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2459 จนถึงวันนี้ นับเป็นปีที่ 107 โดยทรงดำรงตำแหน่งนายทะเบียนสหกรณ์เป็นพระองค์แรกของประเทศไทย และทรงเป็นผู้นำในการเผยแพร่อุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์เพื่อให้สมาชิกช่วยเหลือตนเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนเป็นที่แพร่หลายไปทั่วราชอาณาจักร ด้วยพระปรีชาสามารถที่ทรงมีคุณูปการต่อระบบสหกรณ์ไทย ส่งผลให้เกษตรกรและสมาชิกพ้นจากภาวะหนี้สิน มีทุนในการประกอบอาชีพ จึงทรงได้รับการยกย่องจากขบวนการสหกรณ์ไทยว่าทรงเป็น “พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย”
สนอง แท่นสูงเนิน
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน
