กาญจนบุรี – ศปป.4 กอ.รมน.นำป่าไม้แจ้งจับ นายทุนบุกรุกขุดตักกินในลำห้วยสาธารณะ และบุกรุกครอบครองที่ดินสันดอนในแม่น้ำแควใหญ่ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้ วันนี้ 6 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอก พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา), หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามข้อร้องเรียนว่า มีกลุ่มนายทุนใช้เครื่องจักรกลหนักบุกรุกป่าริมแม่น้ำแควใหญ่ และลำห้วยสาธารณะ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวรป่าเขาสลักพระ ท้องที่ติดต่อระหว่าง หมู่ 2 บ้านท่ามะนาว และหมู่ 8 บ้านวังจาน ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทั้ง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และปลัดอำเภอ เคยไปตักเตือนให้กลุ่มทุนหยุดดำเนินการแล้ว 2 ครั้ง เมื่อเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แจ้งให้ตำรวจไปจับกุม กลับไม่ดำเนินการ เพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งกลุ่มนายทุนไม่สนใจ ขุดปรับพื้นที่เตรียมแบ่งขายไร่ละ 5-6 แสนบาท
โดย พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ได้เดินทางลงพื้นที่ ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี ผู้ใหญ่บ้าน 2 คน คือ นายสยาม รักชาติ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 และ นายเจริญพงษ์ เปียสนิท ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลวังด้ง โดยคณะเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงที่เกิดเหตุและขณะตรวจสอบไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง พบพื้นที่ถูกบุกรุก จำนวน 2 จุด จุดแรก พบร่องรอยการใช้เครื่องจักรขุดดินในลำห้วยสาธารณะขึ้นมากองและถมในพื้นที่ ซึ่งทราบว่าเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิในการครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน โดยขุดลำห้วยมีขนาดกว้าง 11 เมตร, ลึก 10 – 13 เมตร ยาวประมาณ 600 เมตร คณะเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือหาค่าพิกัดจากสัญญาณดาวเทียมบริเวณที่มีการขุดตักดินออกไป ได้ค่าพิกัด จำนวน 9 จุด คำนวณเนื้อที่ได้ 3 – 1- 85 ไร่
จุดที่สอง คณะเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการใช้เครื่องจักรกลหนักไถปรับพื้นที่สันดอนริมแม่น้ำแควใหญ่เป็นที่ราบ เพื่อยึดถือครอบครองใช้ประโยชน์ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.วังด้ง อ.เมืองจ.กาญจนบุรี แจ้งให้คณะเจ้าหน้าที่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าว อยู่นอกพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิในการครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วเป็นพื้นที่ป่าตามมาตรา 4แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาสลักพระ คณะเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือหาค่าพิกัดจากสัญญาณดาวเทียมบริเวณที่มีการไถปรับพื้นที่ และถมดินในแม่น้ำแควใหญ่ คำนวณเนื้อที่ได้ 7 – 1 – 92 ไร่
จากการเข้าตรวจสอบวันนี้ พบพื้นที่บุกรุกทั้ง 2 จุด รวมเนื้อที่ 10 – 3 – 87 ไร่ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นรวมกันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นความผิด พระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 , 55 , 72 ตรี “ฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ” จึงร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ทั้ง 2 จุด เนื้อที่รวม 10 – 3 – 87 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นเป็นเงิน 747,954.24 บาท
ต่อจากนั้น เวลา 17.40 น. นายไพโรจน์ เขียวแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) นำบันทึกตรวจยึดไปแจ้งความกล่าวโทษต่อ พันตำรวจโท มณิภัทร์ เพ็งเกล็ด สารวัตร (สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยลงบันทึกประจำวันเลข ปจว. ข้อ 3 เวลา 17.51 น. ลงวันที่ 6 มี.ค. 2566 ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามตัวนายทุนที่กระทำความผิดมาดำเนินคดีพันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา), หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) และผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบที่ดินถูกกลุ่มนายทุนใช้เครื่องจักรกลหนักบุกรุกป่าริมแม่น้ำแควใหญ่ และลำห้วยสาธารณะ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวรป่าเขาสลักพระ ท้องที่ติดต่อระหว่าง หมู่ 2 บ้านท่ามะนาว และหมู่ 8 บ้านวังจาน ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์