UVC PROUD : ก้าวสู่ปีที่ 86 ของการก่อตั้ง อาชีวะอุบลฯ มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565 สู่โลกอาชีพอย่างภาคภูมิ ผลวานความดี สมศักดิ์ศรีรางวัลสถานศึกษาพระราชทาน.วันที่ 15 มีนาคม 2566 วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประจำปีการศึกษา 2565 โดยมี นางสาวลฎาภา แสวงทรัพย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธี โดยก่อนเริ่มพิธีมอาประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ได้มอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติให้กับผู้สำเร็จการศึกษาทั้ง 2 ระดับ ที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมและผู้สำเร็จการศึกษาที่สร้างชื่อเสียงและคุณประโยชน์ให้กับสถานศึกษา จำนวน67 คน
จากนั้นเป็นพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้สำเร็จการศึกษา ทั้งนี้วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี มีผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565 ที่แจ้งความประสงค์เข้ารับประกาศนียบัตรในวันนี้ รวมทั้งสิ้น 413 คน แบ่งเป็น ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จำนวน 140 คน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จำนวน 273 คน
ในโอกาสนี้ นางสาวลฎาภา แสวงทรัพย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ได้ให้โอวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565 เข้าสู่ปีที่ 86 ของการก่อตั้งสถานศึกษา ความว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษาทุกคน ที่ฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการจนก้าวสู่ความสำเร็จในวันนี้ ขอทุกคนจงภาคภูมิใจในสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานีแห่งนี้ของเรา ที่ได้บ่มเพาะความรู้และความดีงาม มาอย่างยาวนานถึง 86 ปี จนเป็นที่ประจักษ์ชัด ด้วยรางวัลอันทรงคุณค่า รางวัลสถานศึกษาพระราชทาน ระดับอาชีวศึกษา ประเภทสถานศึกษาขนาดใหญ่ 3 ครั้ง ต่อเนื่องใน 10 ปี (2556,2560,2564) ได้รับโล่ทองคำพระราชทาน อันเป็นเกียรติประวัติที่สำคัญแก่สถานศึกษา สร้างความภาคภูมิใจให้กับคณะผู้บริหาร ครู บุคลากร นักเรียน นักศึกษา รวมถึงผู้สำเร็จการศึกษาทุกคน อย่างหาที่สุดมิได้ ขอผู้สำเร็จการศึกษาทุกคน จงภาคภูมิใจ เชื่อมั่น ในสถาบันการศึกษาของเรา ว่าความพร้อม มีศักยภาพในทุกด้าน สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ครูขอฝากให้กับผู้สำเร็จการศึกษาทุกคน นั้นก็คือหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า คืออิทธิบาท 4 ที่เป็นคุณธรรมนำไปสู่ความสำเร็จ มี 4 ประการคือ 1 ฉันทะ คือความพอใจ ในงานที่รับผิดชอบ ในสิ่งที่ได้รับมอบหมาย ปราถนาจะทำให้ดียิ่งๆขึ้นไป 2 วิริยะ คือ ความเพียร การขยันหมั่นเพียรประกอบกิจการงานนั้นด้วยความขยัน ไม่ท้อถอย ต่อความยากลำบาก 3 จิตตะ คือ การจิตของเราไปจดจ่อในการทำงาน ไม่ปล่อย ให้ใจฟุ่งซ่านเลือนลอยไป
4 วิมังสา คือ คือการทบทวน/ไตร่ตรองหมั่นใช่ปัญญา ตรวจหาเหตุผลในการทำงานให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ซึ่งหลักธรรมนี้ถือว่าเป็นรากฐานหรือหนทางที่จะทำให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุกคนประสบความความสำเร็จ เมื่อก้าวสู่โลกอาชีพ ขอจงนำองค์ความรู้ ประสบการณ์และความดีงามที่ได้รับจากสถาบันการศึกษาแห่งนี้ ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานให้ประสบ
ควาสำเร็จ จากนี้ไปขอให้ทุกคนพึงระลึกเสมอว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่จะต้องศึกษาและเรียนรู้อย่างไม่มีวันสิ้นสุดต่อไป รู้จักพัฒนาตนเอง แสวงหาและเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ รวมทั้งมีจิตอาสารู้จักให้ เสียสละและแบ่งปันแก่ผู้อื่น บนพื้นฐานของการเป็นคนดี มีคุณธรรม นำพาตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ก้าวสู่ความสำเร็จและเจริญก้าวหน้าสืบไป