กาญจนบุรี – ส่งผู้สมัครเพียงรายเดียว หัวหน้าพรร

admin2

กาญจนบุรี – ส่งผู้สมัครเพียงรายเดียว หัวหน้าพรรไทยศรีวิไลย์ ลงพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ช่วยผู้สมัครหาเสียงโค้งสุดท้าย ชูนโยบายเบี้ยคนชรา 5000 บาท เงินค่าตอบแทน อสม. อพปร. คนพิการ ทหารผ่านศึก 3000 ต่อเดือน เผยไม่มั่นใจกับการทำงานของ กกต.ยุคนี้วันนี้ 09 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลวังกะ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ลงพื้นที่ช่วยนายรอน สืบยิ้ม ผู้สมัครหมายเลข 8 ของพรรคไทยไทยศรีวิไลย์ ซึ่งทางพรรคส่งผู้สมัครเพียงรายเดียวลงใน เขต 5 กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค อ.ศรีสวัสดิ์ และ อ.เมือง (ต.บ้านเก่า) หาเสียงในโค้งสุดท้าย โดยนายรอน สืบยิ้ม มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอสังขละบุรี และเคยดำรงตำแหน่งอดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลวังกะหลายสมัย ซึ่งการลงพื้นที่หาเสียงในวันนี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี

ในโอกาสนี้ นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว่า ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ตนเองปรับยุทธศาสตร์การหาเสียงด้วยการเลือกลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครเขตในเขตที่เราคิดว่าเราชนะสามารถปักธง ส.ส.เขตได้โดยเฉพาะในพื้นที่กาญจนบุรีเขต5 ที่เราส่งนายรอน สืบยิ้มผู้สมัครหมายเลข 8 ซึ่งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ มาก่อน ซึ่งเคสนี้เราค่อนข้างมั่นใจว่าเราจะสามารถชนะได้ในเขตนี้

ส่วนภาพรวมของพรรคเราหาเสียงกันมานานแล้ว โดยขณะนี้เราขอคะแนนเสียงจากครอบครัวคนไทยเพียงครอบครัวละ1คะแนนจากทั้งหมด 22 ล้าน ครอบครัวสำหรับลงคะแนนให้พรรคไทยศรีวิไลซ์หมายเลข 42 ในการเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราก็จะสามารถดำเนินงานตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ เช่น นโยบายคนแก่ 5,000 บาท ซึ่งจะนำรายได้จากหวยบนดินมาใช้ โครงการช่วยเหลือพี่น้องคนจน 3,000 บาท เงินค่าตอบแทน พี่น้องชาว อสม. และ อฟปร. คนพิการ รวมทั้งทหารผ่านศึก เดือนละ 3000 บาท เราจะนำเงินมาจากพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษคาสิโน เพราะเรากู้ไม่ได้การอัดฉีดในระบบเศรษฐกิจ 22 ล้าน ครัวเรือนให้กู้ได้ครัวเรือนละ 150,000 บาท ซึ่งไม่ใช่การให้เปล่า ทั้งนี้เพื่อสร้างวินัยทางการเงิน รวมทั้งนโยบายศพละ 500,000 เพื่อเป็นหลักประกันให้ทุกคนที่ที่เป็นคนไทย

ส่วนนโยบายเรื่องไฟฟ้าถ้าเลือกพรรคไทยศรีวิไลค่าไฟจะลดลงทันทีเพราะเราจะยกเลิกนโยบายซื้อไฟฟ้าเอกชน 18,000 เมกะวัตต์ โดยการออกพระราชกำหนด ปัญหาค่าไฟที่แพงเกิดจากรัฐบาลที่ผ่านมาเซ็นสัญญาซื้อไฟฟ้าเอกชนไว้เยอะซึ่งเกินกว่าความจำเป็นที่ต้องการใช้ เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่เพียง 3,3000เมกะวัตต์แต่เรามี 51,000เมกะวัตต์ มันเกินความต้องการก็จะทำให้ค่าftลดลง ที่สำคัญเราจำเป็นต้องซื้อหุ้น ป.ต.ท คืนมา เพราะจะช่วยทำให้ค่าการกลั่นน้ำมันลดลงประมาณ 3- 4 บาท เพราะ ป.ต.ท คุมโรงกันอยู่ประมาณ 60%

อีกส่วนก็คือนโยบายการควบคุมราคาก๊าซหุงต้ม ราคาก๊าซที่ใช้ในครัวเรือนที่ปัจจุบันตกอยู่ที่ถังละ 400 กว่าบาท ถ้าเราไม่ตัดสินใจซื้อหุ้นป.ต.ท. คืนก็จะทำให้ราคาก๊าซหุงต้มแพงขึ้นทั้งๆที่เราเป็นเจ้าของสัมปทานฐานขุดเจาะธรรมชาติในอ่าวไทยแต่ถ้าเราซื้อหุ้นปตทคืนมันก็จะกลายเป็นของรัฐมันก็จะขายถูกได้ในขนาด 15 กิโลกรัม ราคาไม่เกิน 250 บาท ตรงกันข้ามถ้าเราไม่ซื้อคืนเราต้องเอาเงินมาอัดฉีดเพลงปีละจำนวนกว่าแสนล้าน

ซึ่งผมเชื่อว่าพรรคการเมืองใหญ่ไม่กล้าซื้อหุ้นปตท.คืนเพราะพรรคการเมืองใหญ่เป็นเจ้าของผู้ถือหุ้นอยู่ใน ป.ต.ท ส่วนใหญ่อีกส่วนหนึ่งคือหลายพรรคการเมืองไม่ใกล้ยกเลิกซื้อสัญญาซื้อไฟฟ้าจากเอกชน 18,000 มักกะวัตต์ เพราะว่าเจ้าสัวรายนี้มือถึงใจถึงจ่ายเงินสนุบสนุนให้กับทุกพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นเค้าจึงไม่ทำ พรรคไทยศรีวิไลต้องการทำเพราะเราไม่มีผลประโยชน์กับเรื่องเหล่านี้ และจุดยืนที่สำคัญอีกเรื่องของพรรคไทยศรีวิไลซ์ คือพรรคจะไม่แก้ไขหรือไม่ยกเลิกประมวลกฎหมายมาตรา 112 มาตั้งแต่ต้น ส่วนพรรคอื่นจะมีนโยบายอย่างไรเราก็ไม่ว่า แต่ถ้าหากจะต้องมาร่วมรัฐบาลกันก็อยากให้พักเรื่องนี้ไว้ก่อน

ส่วนเรื่องความศรัทธาใน ก.ก.ต นั้น ที่ผ่านมาในการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในและนอกราชอาณาจักร นั้นเป็นใบถ่ายเอกสารซึ่งมองไม่เห็นเลยว่าเป็นใคร บางทีชื่อพรรคก็หาย หน้าผู้สมัครก็หาย คือแบบเหนื่อยมากกับก.ก.ต ยุคนี้ และผมก็เชื่อว่าประชาชนก็คงร้องเรียน ก.ก.ต เยอะ ส่วนจะถึงขั้นที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่นั้น ผมก็คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่โอเคเท่าไหร่ เพราะว่าหนึ่งคือเราไม่สามารถตรวจเช็คได้ว่าบัตรของเราทุกเปลี่ยนหรือเปล่า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างมากเกรงว่าอำนาจอธิปไตยของพี่น้องประชาชนจะหายไประหว่างทาง ตนไม่ได้บอกว่าใครไปเป็นคนที่ทำให้หายไประหว่างทาง แต่เราต้องดูดีๆต้อเฝ้างดู 24 ชั่วโมงเพราะมันไม่มีระบบไหนที่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็จำเป็นต้องหาหาระบบที่ดีที่สุดเพื่อให้การเลือกตั้งโปร่งใส ไม่มีการทุจริตมีเสียงกล่าวทิ้งท้ายสำหรับพื้นที่ เขต 5 กาญจนบุรี มีผู้สมัคร ส.ส ทั้งหมด 12 คน จาก 12 พรรคการเมือง โดยมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 18,617 คน

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ – รายงาน

Next Post

กาญจนบุรี - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ แถลงปิดคดีบังคับใช้

กาญจนบุรี – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ แถลงปิดคดีบังคั […]

You May Like

ข่าวภูธร