กาญจนบุรี – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ แถลงปิดคดีบังคับใช้แรงงานเมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีนายจ้าง-ผู้สนับสุนน-คนนำพาต่างด้าว รวม 9 ราย จากกรณีเมื่อวันที่ 1 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สก.เมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและพัฒนา ได้ร่วมกันเข้าช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 14 ราย หลังแจ้งขอความช่วยเหลือ กรณีถูกหลอกมาทำงานตัดอ้อย และถูกนายจ้างยึดเอกสารหนังสือเดินทางและโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งถูกทำร้ายร่างกายและบังคับให้ทำงาน โดยมีสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก เหตุเกิดที่ไร่อ้อยภายในพื้นที่หมู่ 5 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือแรงงานทั้งหมดได้พร้อมดำเนินคดีกับนายจ้าง ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.อสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ สภ.เมืองกาญจนบุรีดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์ รวมทั้งสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับเกี่ยวข้องทั้งกระบวนการให้ครบถ้วน จากกรสืบสวนพบว่า นายจิรายุทธ เฉลิมศุภเศรษฐ์ นายจ้าง ได้รับแรงงานด้าวเข้ามาทำงานจากผู้รับจ้างขนแรงงานผิดกฎหมาย จากนั้นได้บังคับให้ทำงานในไร่อ้อย โดยยึดเอกสารประจำตัวทั้งหมด และมีการข่มขู่โดยใช้ทั้งอาวุธมีดและอาวุธปืน ทำให้แรงงานหวาดกลัวและยอมทำงาน โดยต้องทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด และได้เงินสัปดาห์ละ 500 บาทต่อคน และต้องพักอาศัยด้วยกันอย่างแออัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหารวมจำนวน 9 คน แบ่งเป็นนายจ้าง 1 ราย ผู้สนับสนุน 2 ราย และคนนำพาต่างด้าวเข้ามาทำงานจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย1.นายจิรายุทธ เฉลิมศุภเศรษฐ์ (นายจ้าง) ดำเนินคดีฐาน ค้ามนุษย์ และบังคับใช้แรงงานหรือบริการฯ 2.นายเฉลิมชัย แบนดอนไพร (ผู้ใหญ่บ้าน) 3.ร.ต.อ.วชิร ชยธวัช (ลูกเขยของ นายจิรายุทธฯ) ดำเนินคดีฐาน เป็นผู้สนับสนุนค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงานหรือบริการฯ 4.นายสรไกร ศรีนานา 5.นายนัฐวุฒิ วินกล่อม 6.นายมนัส ทองเถาว์ 7.นายเฉลิมชัย แบนดอนไพร 8.นายรณชัย เกิดสนอง และ 9.นายอะวิน ไม่มีนามสกุล (สัญชาติเมียนมา) ดำเนินคดีฐาน ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายนั้นพ้นจากการจับกุม
เบื้องตันในส่วนของการดำเนินดีกับคนนำพาทั้ง 6 รายนั้น ได้แยกดำเนินคดีเป็นอีกสำนวนหนึ่ง และได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการแล้ว ส่วนการดำเนินคดีกับนายจ้างและผู้สนับสนุนนั้น อยู่ระหว่างสรุปสำนวนเตรียมส่งพนักงานอัยการ โดยแยกส่งสำนวนของเจ้าหน้าที่รัฐให้กับพนักงานอัยการพิเศษคดีปราบปรามการทุจริต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว หลังจากที่ได้เข้าช่วยเหลือเหยื่อจากการบังคับใช้แรงงานทั้งหมดแล้ว ในส่วนของการดำเนินคดีกับนายจ้างก็มีความคืบหน้าเรื่อยมา โดยได้ขยายผลกำเนินคดีกับผู้สนับสนุนเพิ่มเติมอีก 2 ราย ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้นายจ้างดังกล่าวบังคับใช้แรงงานได้ นอกจากนี้ยังได้ขยายผลไปถึงขบวนการนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายได้อีก 6 คน วันนี้จึงได้สรุปสำนวนเสนออัยการทั้งหมด หลังจากนี้จะได้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้กระทำผิดเพื่อตรวจยึดอายัดส่ง ปปง.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพื่อมิให้สามารถกลับมากระทำผิดได้อีก
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์