อยุธยา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เป็นองค์ประธานในพิธี
กุศลกิจเป็นธรรมพลีและบรวงสรวง บูรณะพระพุทธปฎิมาประจำพระอุโบสถ วัดวรเชษฐาราม เพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ แด่องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ 15 มิ.ย.66 เวลา 08.10 น. ที่ วัดวรเชษฐาราม ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถวายการต้อนรับ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการในสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นองค์ประธานในพิธีบรวงสรวงบูรณะพระพุทธปฎิมาประจำพระอุโบสถ วัดวรเชรษฐาราม เพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ ในองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า โดยมี พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร นำคณะพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ถวายการต้อนรับ พร้อมด้วย นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี
ด้วย เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ มีดำริบูรณะพระพุทธปฎิมาประจำพระอุโบสถ วัดวรเชษฐาราม เพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ ในองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระบูรพมหากษัตริย์ ในการนี้ กรมศิลปากร ได้มอบหมายให้ สำนักช่างสิบหมู่ เป็นผู้ดำเนินการบูรณะ ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จและสวยงาม คณะทำงานทุกฝ่าย จึงได้จัดพิธีกุศลกิจเป็นธรรมพลีและจัดตั้งเครื่องบรวงสรวง เพื่อน้อมเกล้าถวายพระสยามเทวาธิราช พระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า แห่งกรุงศรีอยุธยา และสร้างความเป็นสิริมงคลกับผู้ดำเนินการบูรณะ วัดวรเชษฐารามมีฐานะเป็นพระอาราม
หลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเอกาทศรถทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2136 สันนิษฐานว่าเจดีย์เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่ง สมเด็จพระเอกาทศรถ สร้างเป็นอนุสรณ์แด่พระเชษฐาผู้ประเสริฐ เดิมวัดนี้ชื่อ วัดเจ้าเชษฐ์ วัดมีเจดีย์ประธานทรงระฆังขนาดใหญ่เป็นประธานของวัด มีลักษณะอ้วนป้อมบนฐานเตี้ย อายุของเจดีย์นี้ประมาณพุทธศตวรรษที่ 20–22 มีวิหารตั้งอยู่ด้านหน้า โดยมีอุโบสถอยู่ขนานกัน อุโบสถไม่เหลือหลังคาแล้วแต่หน้าบันมีการประดับด้วยเครื่องถ้วยหรือการเริ่มเจาะหน้าต่าง ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมในสมัยอยุธยาตอนปลาย คือพุทธศตวรรษที่ 23 แต่ใบเสมาเก่ากว่ารูปทรงโบสถ์ ถัดไปอีกมีวิหารที่มีเจดีย์รายทรงเครื่องอยู่คู่หนึ่ง มีกำแพงแก้วล้อมรอบอาคารทั้งหมดเอาไว้ โดยมีคูน้ำล้อมรอบบริเวณ
สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา
