อุตรดิตถ์แถลงข่าว จับยาบ้าล๊อตใหญ่ 514,000 เม็ด
วันที 19 สิงหาคม 2567 ที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าฯ จ.อุตรดิตถ์,พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมชุด ปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุตรดิตถ์ ร่วมแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ ของกลางยาบ้า 514,000 เม็ด
พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากการติดตามสืบสวนในเชิงลึก ทำให้ทราบว่ามีเครือข่าย นาย ป.ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่หลบหนีหมายจับอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำหน้าที่เก็บรักษายาบ้าและคอยนำยาบ้าไปวางให้กลุ่มลูกค้ายาเสพติด ตามจุดต่างๆ ใน จ.อุตรดิตถ์ จนกระทั้งเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 8814 อุตรดิตถ์ ต้องสงสัยจอดตรงป้ายให้ทาง ริมถนนทางหลวงหมายเลข 11 อุตรดิตถ์-พิษณุโลก หมู่ 1 ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ จนท.ชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุตรดิตถ์ นำกำลังแสดงตัวเป็น จนท.ตร.และขอทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าว
พบยาบ้าจำนวน 6 มัด ห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำวางอยู่บริเวณที่วางเท้าส่วนของผู้โดยสารด้านหลัง จึงทำการควบคุมตัวนายพชรพลหรือ บิ๊ก (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี คนขับ และ น.ส.นิชาดา หรือ แตง (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ทั้งอยู่เป็นชาว อ.เมืองอุตรดิตถ์ ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล ทราบว่าได้มีการเช่าบ้าน ที่ ต.ท่าเสา และ ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อเก็บยาบ้า หลังเข้าตรวจค้นพบยาบ้าใส่ในกระสอบปุ๋ยและกล่องพลาสติกสีดำ รวมทั้งหมด 257 มัด หรือ 514,000 เม็ด
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้งคู่รับคำสั่งจาก นาย ป. ที่หลบหนีหมายจับอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำหน้าที่เก็บรักษายาบ้าและคอยนำยาบ้าไปวางให้กลุ่มลูกค้ายาเสพติด ตามจุดต่างๆ ใน จ.อุตรดิตถ์ ด้วยยาบ้าล็อตใหญ่ จึงตัดสินใจเช่าบ้าน เพื่อเก็บยาบ้า เมื่อ นาย ป.สั่งการ จึงค่อยเข้ามานำยาบ้าออกไปวางตามจุดที่กำหนด ก่อนถูก จนท.ตร.จับ นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ กล่าวว่า ช่วงเดือนสิงหาคม นี้ สามารถจับกุมเครือข่าย นาย พ.และ นาย ป.ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่หลบหนีหมายจับอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ยึดของกลางยาบ้ารวมกว่า 1 ล้านเม็ด และรวมยอดปี 2567 สามารถจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด และ ยึดยาบ้าได้กว่า 2,300,000 เม็ด ทั้งนี้ จ.อุตรดิตถ์ อย่างไรก้ตาม จนท.ตร. ชุดปราบปรามยาเสพติด จ.อุตรดิตถ์ มีการลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว ขยายผลจับกุมอย่างต่อเนื่อง
นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน
