ยะลา -องค์การบริหารส่วนตำบลยะรมจัดการแข่งขันการทำปูโล๊ะลือแมบือตง Soft power อาหารพื้นบ้านที่ขึ้นชื่อของพี่น้องมุสลิมชาวเบตง ในงานเทศกาลวันฮารีรายออีดิลฟิตรี ประจำปี 2568
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ที่บริเวณลานกิจกรรมหน้า อบต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.ยะรม ทั้ง 6 หมู่บ้าน ต่างเร่งมือนำวัตถุดิบ ประกอบด้วย ข้าวเหนียว กะทิสด เกลือ น้ำตาล กรอกใส่กระบอกไม้ไผ่ เพื่อเข้าร่วมแข่งขันการทำปูโล๊ะลือแมบือตง Soft power อาหารพื้นบ้านที่ขึ้นชื่อของพี่น้องมุสลิมชาวเบตง ที่จะนิยมทำกินในช่วงเทศกาลฮารีรายอ ซึ่งทาง อบต.ยะรม ได้จัดการแข่งขันการทำปูโล๊ะลือแมบือตงขึ้น ตามโครงการเทศกาลวันฮารีรายออีดิลฟิตรี ประจำปี 2568 มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารพื้นถิ่นเป็นผู้ตัดสิน โดยพิจารณาจากรสชาติ ความสะอาด ความสวยงาม และการรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิม บรรยากาศเต็มไปด้วยความรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ มีความสุขในการทำงานของแต่ละทีม โดยมีร้อยตำรวจเอกสิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยะรม ชาวบ้าน และเยาวชน มาร่วมชมให้กำลังใจผู้เข้าแข่งอย่างต่อเนื่อง
นายรอเซะ สาเฮาะ ผู้เข้าแข่ง เล่าว่า ปูโล๊ะลือแม ถือเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะในพื้นที่ของ อ.เบตง โดยเฉพาะไม้ไผ่ที่นำมาทำข้าวหลาม เป็นไผ่ท้องถิ่นที่มีเฉพาะในพื้นที่ อ.เบตง เท่านั้น ซึ่งชาวมุสลิมมักจะเรียกว่า บูโละสนีแย หรือ ไม้ไผ่พันธุ์สมาเลียน ขนาดข้อยาว ตัวเนื้อไม้บาง มีกลิ่นหอม และน้ำหนักเบา โดยขั้นตอนในการทำปูโล๊ะลือแม มีความยุ่งยากพอสมควร เพราะต้องเข้าไปในป่า ขึ้นเขาไปหาไม้ไผ่ที่มีขนาดพอเหมาะ มีลำต้นตรง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-7 เซนติเมตร เพื่อนำกลับมาเลื่อยเป็นท่อน ท่อนละประมาณ 75-90 เซนติเมตร แล้วแต่จะชอบความยาวขนาดไหน จากนั้นก็นำมาทำความสะอาด แล้วหยอดใบตองที่ม้วนเป็นบ้องยาวเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ โดยไม่ให้ใบกล้วยพับ หรือติดขัด และต้องให้ใบตองแนบกับกระบอกไม้ไผ่ หากไม่เป็นเช่นนั้น เวลาย่างข้าวเหนียว ข้าวเหนียวจะติดกระบอกไม้ไผ่ จะทำให้ผ่ายาก และที่สำคัญคือใบตองถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ข้าวหลามไม่ติดกระบอก มัน สวย หอม ปอกง่าย และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
ส่วนประกอบการทำข้าวหลามไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนผสมก็มีเพียงข้าวเหนียวขาวหรือข้าวเหนียวดำ กะทิสด เกลือ น้ำตาลทราย เพียงแค่นี้ ก็สามารถนำมาทำข้าวหลามได้แล้ว นำเครื่องปรุงทุกอย่างมาผสมให้เข้ากัน กะเกณฑ์ความหวานหรือเค็ม มากน้อยแล้วแต่ความชอบหรือตามสูตรสำเร็จของแต่ละคน เมื่อข้าวหลามสุกแล้ว ก็จะนำมาผ่า แล้วหันเป็นชิ้นๆ จากนั้น นำมาจิ้มแกงไก่ แกงเนื้อ กินพร้อมน้ำชา โกปี๊บือตง หรือ กาแฟโบราณเบตง จะเพิ่มอรรถรส ความอร่อยมากยิ่งขึ้น
ด้านร้อยตำรวจเอกสิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยะรม กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลยะรมได้จัดงานเทศกาลฮารีรายอ อีดิลฟิตรี ขึ้นเพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาการทำอาหารพื้นถิ่นแล้ว ยังเป็นการสร้างความสามัคคีและสืบสานวัฒนธรรมให้ลูกหลานได้เรียนรู้อีกด้วย โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การแสดงกอซีดะห์ จากปอเนาะสามแยก สร้างความบันเทิง และอนุรักษ์วัฒนธรรม การแสดงอันนาซีด โดยนักเรียนตาดีกา แสดงถึงพลัง และความสามารถของเยาวชน ประกาศผลและมอบรางวัลการแข่งขันทำ “ปูโล๊ะลือแม” เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น การบรรยายธรรม โดย “อาเยาะห์มัย” เพื่อให้ความรู้และแนวทางทางศาสนา เป็นต้น
ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา โทร.064-126-5593