กาญจนบุรี – สมาชิกเทศบาลตำบลทองผาภูมิ จับมือภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ เอกชน จัดการแข่งขันประกวดเต้น ทองผาภูมิสเตทคัฟเวอร์แดนซ์ ครั้งที่ 1 มีนักเต้นเข้าร่วมแข่งขัน 30 ทีม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมาที่บริเวณลานตลาดริมแควเมืองท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ เป็นประธานเปิดการแข่งขันประกวดเต้น ทองผาภูมิ สเตทคัฟเวอร์แดนซ์ 2023 ครั้งที่ 1จัดขึ้นโดยสมาชิกสภาเทศบาลร่วมกับภาครัฐบาล เอกชน จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนให้เยาวชนและคนรุ่นใหม่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ด้วยการเต้นแสดงออก มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ซึ่งทำการแข่งขันประกวดเต้นระดับประถมและระดับมัธยม จำนวน 30 ทีม ได้รับความสใจ มีคนชมการแข่งขันจำนวนมากสำหรับการเต้นเป็นการแสดงออกทางศิลปะผ่านการเคลื่อนไหวรูปแบบหนึ่ง นอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อความบันเทิงแล้ว การเต้นยังส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย เพราะการเต้นต้องใช้ร่างกายเพื่อเคลื่อนไหว ในขณะเดียวกันก็ต้องใช้สมาธิและการจดจำ ประโยชน์ของการเต้นจึงไม่จำกัดอยู่แค่ทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังดีต่อจิตใจและสมองด้วย
ในปัจจุบันการเต้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น ฮิปฮอป ป๊อป ซุมบ้า ลีลาศ และแอโรบิก แต่ไม่ว่าจะแบบไหนก็เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งสิ้น เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะอย่างต่อเนื่องจะช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย สมอง และอาจลดความเสี่ยงของโรคได้ หากคุณกำลังมองหากิจกรรมสนุก ๆ และดีต่อสุขภาพ การเต้นก็เป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยด้วยความหลากหลายของท่าเต้น ทำให้การเต้นส่วนใหญ่ต้องใช้อวัยวะหลายส่วนหรืออาจเรียกได้ว่าทั่วทั้งร่างกายประกอบกัน อวัยวะแต่ละส่วนก็มีส่วนประกอบย่อย อย่างกล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก และข้อต่อ ซึ่งการเคลื่อนไหวจะช่วยบริหารส่วนประกอบเหล่านี้ เมื่อบริหารเป็นประจำก็จะเกิดการพัฒนาและแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น กระดูกและข้อต่อสามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้น เป็นต้น
นอกจากนี้ศักยภาพทางด้านร่างกายที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว เช่น การทรงตัว ความคล่องตัว และอาจลดการบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวหรือการเล่นกีฬาได้ด้วย ประโยชน์ของการเต้นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือช่วยปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกายตามจังหวะดนตรี การเต้นอาจบรรเทาอารมณ์ด้านลบ อย่างความเครียด ความเศร้า และความเบื่อหน่ายได้การศึกษาชิ้นหนึ่งได้ทดลองให้วัยรุ่นจำนวนหนึ่งที่มีภาวะซึมเศร้าชนิดไม่รุนแรง ภาวะนี้มักทำให้เกิดความรู้สึกเศร้า เสียใจ ผิดหวัง และร้องไห้บ่อยขึ้น ผู้ทดลองให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ารับการบำบัดภาวะดังกล่าวด้วยการเต้นเป็นเวลา 12 สัปดาห์ หลังจากการทดลอง พบว่าอาการของภาวะดังกล่าวดีขึ้น ซึ่งผู้ทดลองอธิบายว่า การเต้นและการเคลื่อนไหวช่วยปรับสมดุลการทำงานสมองทำให้สมองสามารถควบคุมระดับของฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) และเซโรโทนิน (Serotonin) ได้ดีขึ้น โดยฮอร์โมนทั้งสองนี้ส่งผลต่อความคิด อารมณ์ความรู้สึก และพฤติกรรม เมื่อฮอร์โมนทั้งสองชนิดสมดุลจึงอาจช่วยลดความผิดปกติจากภาวะดังกล่าวได้
ดังนั้นประโยชน์ของการเต้นจึงไม่เพียงช่วยรักษาการทำงานของสมอง แต่อาจลดความเสี่ยงของโรคทางสมองบางชนิดได้ด้วย นอกจากนี้ การเต้นยังอาจส่งผลดีต่อสุขภาพแบบเดียวกับการออกกำลังกายชนิดอื่น ๆ เช่น กระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพและโรคเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม การเต้นแบบใดให้ประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุด รวมถึงการเต้นแต่ละประเภทก็อาจมีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ – รายงาน