นายกรัฐมนตรี แถลงผลตรวจยึดโทลูอีน (Toluene) เคมีภัณฑ์ที่เป็นวัตถุอันตรายประเภท 3 ตาม พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จำนวน 90 ตัน ต้นทางจากเมืองปูซาน เกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นทางผ่านไปย่างกุ้ง
เมื่อเวลา 10.40 น.วันนี้ (12 ก.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รอง ผบ.ตร. กรมรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดโทลูอีน (Toluene) เคมีภัณฑ์ที่เป็นวัตถุอันตราย ประเภท 3 ตาม พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จำนวน 90 ตัน ณ คลังสินค้าอันตราย (JWD) สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยการตรวจยึดดังกล่าว เป็นผลจากการที่ กรมศุลกากร ได้ตรวจสอบใบตราส่งสินค้าผ่านแดนสำแดงชนิดสินค้า Toluene โทลูอีน ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จัดเป็นของต้องจำกัดต้องมีใบอนุญาตในการผ่านแดน จึงได้แจ้งกักสินค้าเพื่อตรวจสอบ ประกอบกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ยังได้ตรวจสอบพบว่าสินค้าผ่านแดนดังกล่าวมิได้ขออนุญาตนำผ่าน อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
อีกทั้งได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี ว่าจะมีการนำเข้าสารโทลูอีน (Toluene) จำนวน 90 ตันโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อนำส่งไปยังปลายทางนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกกฎหมาย และยังพบว่ามีต้นทางมาจากเมืองปูซาน เกาหลีใต้ ซึ่งได้นำมาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง นำผ่านประเทศไทย และออกที่ศุลกากรแม่สอด จังหวัดตาก
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ทำการสืบสวนทางลับ และเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา พร้อมประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในการตรวจใบอนุญาตการนำผ่านสารโทลูอีนและจากการตรวจสอบจากระบบการตรวจสอบการแจ้งยื่นเอกสารทางทะเบียน ขอนำผ่านสินค้าในฐานข้อมูลกรมโรงงาน
อุตสาหกรรม และประสานสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขอความร่วมมือในการร่วมตรวจสอบสินค้า และจากการบูรณาการประสานข้อมูลร่วมกันทั้ง 4 หน่วยงาน พบประเด็นน่าสงสัยนำสู่การยึดสารโทลูอีน คือ
1. สำนักงาน ป.ป.ส. พบว่า บริษัทผู้สั่งซื้อสินค้าผ่านแดนในสหภาพเมียนมาไม่มีอยู่จริง อีกทั้งไม่มีการขออนุญาตนำเข้ากับทางการเมียนมาแต่อย่างใด โดยบริษัท ได้สั่งซื้อสารโทลูอีน (Toluene) จากประเทศเกาหลีใต้ โดยขนส่งทางเรือ จากเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 พ.ค.67 และสินค้าได้ถึงท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67
2. จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า บริษัทผู้ขอผ่านแดน ไม่เคยมีการนำสินค้าผ่านแดนสินค้าสารโทลูอีนมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก
3. สินค้านี้ จะออกจากประเทศไทย ที่ด่านศุลกากรแม่สอด ไปกรุงย่างกุ้ง สหภาพเมียนมาต่อมากระทั่งวันที่ 8 ก.ค.67 กรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสำนัก ป.ป.ส. ร่วมตรวจสอบพบว่าการนำผ่านสารโทลูอีน จำนวน 90 ตัน ไม่ได้รับอนุญาตการนำผ่านแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ดังนั้นกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้แจ้งข้อหา : นำผ่านสารโทลูอีน จำนวน 90 ตัน เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 และมีการดำเนินการตามกฎหมายของศุลกากร ตามมาตรา 102 และมาตรา 103 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 โดยสินค้างดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน
นายกรัฐมนตรี ยังบอกอีกว่า รัฐบาลมีนโยบายทำลายวงจรยาเสพติดทุกมิติ โดยเฉพาะเคมีภัณฑ์ที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อสังคมและระบบเศรษฐกิจในภาพรวม โดยกำชับให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) บูรณาการการสืบสวนปราบปรามอย่างเด็ดขาด
โดยมี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ในการสืบสวนและป้องกันการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและประสานงาน กรมศุลกากร ทำหน้าที่ในการตรวจสอบควบคุมการนำเข้า – ส่งออกผ่านแดน – ถ่ายลำ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยี ในการตรวจค้นและการประสานงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ในการควบคุมตรวจสอบการใช้สารตั้งต้น และการออกกฎระเบียบและมาตรการควบคุมการใช้สารตั้งต้น ตรวจสอบติดตามการใช้สารตั้งต้น สารเคมี เพื่อลดการนำไปใช้ในทางที่ผิด
รวมทั้งสกัดกั้นการลักลอบนำสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ผลิตยาเสพติดเพื่อเป็นการกวาดล้างกลุ่มหรือเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนให้หมดสิ้น โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด ด้วยการเพิ่มมาตรการและแนวทางในการป้องกันการลักลอบสารตั้งต้นยาเสพติดในอนาคต และเพิ่มมาตรการการตรวจสอบและควบคุมการนำเข้าส่งออกอย่างจริงจัง
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645