อำนาจเจริญ ข่าวต่อ ทนายดัง“ชี้โพรงให้กระรอก” จี้ผู้การอำนาจฯ กรณีแก๊งมิจฉาชีพเหิมเกริมปล้นบุญกฐิน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวพุทธทั่วประเทศ
https://youtu.be/pwPqmvWcx5o
จากกรณีที่พระครูกมล วัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดป่าทองสมร ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ จัดงาน กฐิน ขึ้นที่วัด เพื่อจะนำเงินมาก่อสร้างอุโบสถ ให้แล้วเสร็จซึ่ งหลังจากเสร็จสิ้นงานกฐิน ได้มีแก๊งมิจฉาชีพ โทรมาหลอก ให้โอนเวินจำนวน50,000บาทโดยอ้างตัวว่า เป็นอดีต สส .ชื่อดัง ที่เคยมาบริจาค เงินช่วยเหลือวัดนี้มาก่อน เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว หลงเชื่อใจโดนสนิท ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว และได้โอนเงินให้ ไปเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท พอมาพักหลัง ถึงทราบว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพ จึงนำความเข้าแจ้งกับความกับตำรวจ ที่ สภ. หัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อให้ติดตามตัวคนร้าย มาดำเนินคดี และคืนเงินดังกล่าว จำนวน 50,000 บาทคืนทางวัด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น จนถึงขนาดนี้ คนร้ายที่ยักยอกเงินวัดไปยังลอยนวลอยู่ ยิ่งวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ให้ด้วยเพราะเจ้าอาวาดคิดหนักถึงกับนอนไม่หลับเพราะเป็นเงินที่ชาวพุทธมาร่วมทำบุญเพื่อสร้างอะโอสถมุมหลังคาให้แล้วเสร็จ
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น.นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ทนายความชื่อดังของจังหวัดอำนาจเจริญพร้อมทีมงานผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่วัดป่าทองสมรรัตนาราม ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ไปพบกับพระครูกมล วัฒนาทรเจ้าอาวาสวัดป่าทองสมรรัตนาราม เจ้าคณะตำบล ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน เลขที่ 1 หมู่ที่ 3 ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เพื่อรับมอบสำเนาใบแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าอาวาสมอบให้กับทนายความพร้อมแต่งตั้งให้เป็นทนายความคิดตามคดีที่โดนมิจฉาหลอกตุ๋นให้ให้ถึงที่สุด
นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ทนายความชื่อดังจังหวัดอำนาจเจริญ หลังจากได้รับสำเนาแจ้งความแล้ว กล่าวว่า ตามสำเนาบันทึกการแจ้งความฉบับลงวันที่ 26 ตุลาคม 2567 มีผู้เกี่ยวข้อง หรืออาจมีมากกว่า 3 คน หากมีการสอบสวนขยายผลของพนักงานสอบสวน สอบเจ้าอาวาสวัดอีกครั้งหนึ่ง มีรายละเอียดดังนี้ตามที่ตนสอบถามเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวได้ความว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ขณะเจ้าอาวาสวัดป่าทองสมรรัตนาราม อยู่ในวัดดังกล่าวว่าก่อนเกิดเหตุ ได้มีโทรศัพท์หมายเลข 089-7927664 อ้างชื่อนายมนตรี ก้อนน้วม เพื่อติดต่อกับบุคคลที่รับผิดชอบ พร้อมสอบถามรายละเอียดในค่าใช้จ่าย ผู้แจ้งจึงได้โทรศัพท์ไปยังหมายเลข 089-7927664 และได้พูดคุยรายละเอียดกับนายมนตรี ก้อนน้วม ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ผู้แจ้งจึงได้เดินทางมายังร้านสะดวกซื้อเซเว่น สาขาหัวตะพาน และได้โอนเงินผ่านเค้าว์เตอร์เซเว่น จำนวน 2 ครั้ง
ครั้งแรกวันที่ 26 ต.ค. 67 เวลา 11.33 น. จำนวน 30,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 4281093812 ชื่อบัญชี นายมนตรี ก้อนน้วม รหัสตรวจสอบ 11096-19544-24767-98977-451 TX.ID 524569007 และครั้งที่2วันที่ 26 ต.ค. 67 เวลา 11.36 น.โอนไปอีก จำนวน 20,000 บาท เลขที่บัญชี 4281093812 ชื่อบัญชีนายมนตรี ก้อนน้วม รหัสตรวจสอบ 11096-19544-24767-96979-401 TX.ID 5245693357 เมื่อผู้แจ้งโอนเงินเสร็จแล้วนายมนตรีฯ ยังบอกกับผู้แจ้งว่ารถยนต์ที่จะถวายมีการชำรุดต้องมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตตารี่ และเปลี่ยนยาง และให้ผู้แจ้งโอนเงินเพิ่มจาก50,000บาทอีก 30,000 บาท และให้ผู้แจ้งโอน จากนั้นผู้แจ้งจึงเกิดเอะใจไม่ทำการโอนเงินจำนวนดังกล่าว จากนั้นได้โทรศัพท์และเดินทางไปหา อดีต สส.ชื่อดังรายหนึ่ง(ของสงวนชื่อ-และนามสกุล)จึงทราบว่าเป็นมิจฉาชีพที่โทรมาหลอกผู้แจ้งความ
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน (ขอสงวนนามพนักสอบสวน) สภ.หัวตะพาน รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว จัดทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหายไว้ และจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากนั้น นายจำรัส ไกยสิทธิ์ ทนายความกล่าวอีกว่าตนขอชี้ช่องทาง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้าย ตามบันทึกการแจ้งความที่มีข้อเท็จจริง และมีรายละเอียดมากอยู่แล้ว ตั้งเบอร์โทร ชื่อผู้หลอกให้โอนเงิน และชื่อบัญชี ธนาคารฯลฯชึ่งพอจะติดตามผู้ก่อเหตุได้ไม่ยากนักชึ่งหลักฐานต่างๆก็เยอะอยู่แล้วในการกระทำความผิดเกิดขึ้นในครั้งนี้โดยไม่ยากนักเลย เพราะมีการโอนเงินให้นายมนตรี ก้อนน้วม แล้วจำนวน 50,000 บาท ชึ่งโอนทั้ง2ครั้งถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ตามเอกสารการโอนเงิน เข้า – ออก เข้าข่ายฉ้อโกงผิดกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุก 3 ปี มีการแอบอ้างหลอกลวงทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ส่วนกรณีจะมีความผิดข้อหาปล้นทรัพย์หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวน สืบสวน ขยายผลต่อไป หากผลการสืบสวน สอบสวน มีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 3 คนขึ้นไป ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาข้อหาปล้นทรัพย์ ตามกฎหมายอาญา นายจำรัสยังกล่าวอีกว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องศาสนา วัดวาอาราม เข้มงวดเป็นกรณีพิเศษด้วย เพราะมีวัดมากกว่า 40,000 วัด ทั่วประเทศ ต้องดูแลเป็นกรณีพิเศษเนื่องในระยะนี้อยู่ในช่วงเทศกาลบุญกฐินทั้งประเทศ นายจำรัสกล่าวในที่สุด
ด้านพระครูกมล วัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดป่าทองสมร กล่าวว่า อาตมาอยากขอวิงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เร่งตามตัว หาคนร้ายให้ได้ และนำเงิน 50,000 บาทที่อาตมาโอนให้นั้น มาคืนอาตมาด้วย อาตมา ขอบิณฑบาตจะไม่เอาโทษอะไรเลย ทุกวันนี้อาตมานอนไม่หลับเลยเพราะคิดถึงเงิน 50,000 บาท เพราะมันเป็นเงินของ ญาติโยมมาทำบุญเพื่อก่อสร้าง อุโบสถให้แล้วเสร็จ อาตมาก็ฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและทางทนายความจำรัส ไกยสิทธิ์ ให้เร่ง ติดตามให้ อาตมาด้วยเทอญ อาตมา ขอเจริญพร
ภาพ-ข่าว/นายทิพกร หวานอ่อน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ รายงาน 087 958 0670